top of page
ค้นหา

เศรษฐกิจยุคนี้... เราควร "เช่ารถยนต์" หรือ "ซื้อรถยนต์" ดี?

  • sales70792
  • 8 ส.ค.
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 10 ส.ค.


ในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวน ค่าครองชีพสูง ราคาน้ำมันพุ่ง ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแทบทุกด้าน หลายคนอาจตั้งคำถามว่า“หากจำเป็นต้องใช้รถยนต์ เราควรซื้อเป็นของตัวเอง หรือหันมาใช้บริการเช่ารถยนต์แทนจะคุ้มค่ากว่ากัน?”
เศรษฐกิจแบบนี้... เราควร "เช่ารถยนต์" หรือ "ซื้อรถยนต์" ดี?

บทความนี้พาคุณเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของทั้งสองทางเลือก เพื่อช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ


ข้อดีของ "การเช่ารถยนต์"

1.ไม่ต้องลงทุนก้อนใหญ่

- การเช่ารถไม่จำเป็นต้องวางเงินดาวน์ หรือผ่อนจ่ายระยะยาว

- ช่วยลดภาระการเงินในยุคที่เงินสดสำคัญมาก

2.รวมค่าบำรุงรักษาและประกันภัยแล้ว

- บริษัทเช่ารถส่วนใหญ่มีบริการดูแลซ่อมบำรุง, ประกันภัยชั้น 1 และรถทดแทนในกรณีฉุกเฉิน ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าซ่อมที่ไม่คาดคิด

3. เปลี่ยนรถใหม่ได้ตามความเหมาะสม

- หากคุณต้องเดินทางต่างจังหวัด หรือมีภารกิจเฉพาะทางก็สามารถเลือกประเภทของรถได้ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องยึดติดกับรถคันเดิม

4.ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาขายต่อ

- รถยนต์เป็นทรัพย์สินที่มูลค่าลดลงเรื่อย ๆ

- การเช่าไม่ต้องรับภาระเรื่องราคาขายตกในอนาคต

5. เหมาะกับผู้ประกอบการ / บริษัท

- ควบคุมต้นทุนได้ง่าย สามารถหักค่าใช้จ่ายทางภาษีได้


ข้อดีของ "การซื้อรถยนต์"

1.มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง

- เมื่อผ่อนครบ รถเป็นของคุณทันที สามารถนำไปขาย หรือใช้งานต่อโดยไม่ต้องจ่ายรายเดือน

2. ใช้งานได้ตามอิสระ

- ไม่มีข้อจำกัดจากสัญญาเช่า เช่น จำนวนระยะทาง หรือเงื่อนไขการใช้งาน

3.คุ้มค่าในระยะยาว (สำหรับคนใช้รถทุกวัน)

- หากคุณใช้รถเป็นประจำทุกวัน เดินทางไกลบ่อย หรือเป็นเจ้าของกิจการที่ต้องใช้รถหนัก ซื้ออาจคุ้มค่ามากกว่า



สรุป:

“ถ้าเน้นความคล่องตัว ไม่อยากแบกรับภาระระยะยาว — เช่ารถยนต์น่าจะตอบโจทย์”

“แต่ถ้าใช้รถทุกวัน และมองเป็นการลงทุนระยะยาว — การซื้อรถอาจคุ้มกว่า”

 
 
 

ความคิดเห็น


บริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทรถเช่า , เช่ารถผู้บริหาร, เช่ารถในนามบริษัท, เช่ารถระยะยาว, เช่ารถรายปี, เช่ารถรายเดือน

© 2022 by JAPANRENT (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED.

bottom of page